fbpx

เอ็นข้างเข่าอักเสบ

เอ็นข้างเข่าอักเสบ

เอ็นข้างเข่าอักเสบ (Iliotibial band syndrome) คือ เอ็นที่อยู่บริเวณข้าง(นอก) ของเข่าเกิดการอักเสบขึ้น มักพบในนักกีฬาที่ต้องงอ-เหยียดเข่าซ้ำๆกันตลอดเวลา เช่น นักวิ่ง นักปั่นจักรยาน

มักเกิดจากการใช้งานเข่ามากเกินไปร่วมกับความผิดปกติเล็กน้อยของโครงสร้างร่างกายหรือท่าทางการวิ่งครับ

เอ็นข้างเข่าอักเสบเกิดจาก

IT band ­­(Iliotibial band) คือเอ็นที่อยู่บริเวณด้านข้าง (นอก) ของต้นขาครับ เกาะจากบริเวณสะโพก ลงมาบริเวณด้านข้างของต้นขา ผ่านด้านข้าง(นอก)ของเข่า และมาเกาะที่บริเวณส่วนบนของกระดูกหน้าแข้ง

เมื่อเอ็น IT band ตึงเกินไป อาจเกิดจากการใช้งานหนักๆ วิ่งหรือปั่นจักรยานติดต่อกันนานๆ ทำให้เกิดการเสียดสีของ IT band กับกระดูกด้านข้างของเข่า และเกิดการอักเสบได้

เอ็นข้างเข่าอักเสบอาการ

มักพบในนักกีฬาที่ต้องใช้เข่าซ้ำๆกันตลอดเช่น นักวิ่งระยะไกล นักปั่นจักรยาน โดยจะมีอาการปวดบริเวณด้านข้างของหัวเข่าหลังจากใช้งานเข่าหนักๆ อาจจะเป็นการเพิ่มความเข้มข้นของการซ้อม หรือการแข่งขันก็ได้

วิ่งแล้วเจ็บเข่าด้านข้าง
  • ปวดด้านข้าง(นอก)ของเข่า
  • มักระบุตำแหน่งที่ปวดได้ยาก จะปวดเป็นบริเวณกว้างๆ
  • ถ้าอักเสบไม่มาก อาการปวดจะเกิดขึ้นเมื่อออกกำลังไปได้ระยะหนึ่ง โดยมักเกิดขึ้นที่ระยะเดียวกันเสมอๆ เช่นระยะวิ่ง 5 กิโลเมตรแล้วปวดเป็นประจำเป็นต้น
  • ถ้าการอักเสบเป็นมาก อาการปวดจะเกิดตอนเริ่มออกกำลังกายเลยก็ได้ หรืออาจมีอาการปวดตอนพักก็ได้
  • ถ้าต้องวิ่งลงเขา ขึ้นเขา ที่ชันๆ หรือวิ่งยาวๆจะมีอาการได้ง่ายขึ้น
  • นักกีฬาที่เพิ่มระยะการซ้อม หรือความเข้มข้นของการฝึกจะเป็นได้ง่าย
  • ในบางคน นั่งงอเข่านานๆก็ปวดได้

สาเหตุของเอ็นข้างเข่าอักเสบ

  1. ใช้งานเข่าซ้ำๆกันมากเกินไป มักเกิดขณะเพิ่มระยะหรือความเร็วของการฝึกซ้อมกีฬาเช่น วิ่งหรือจักรยาน
  2. โครงสร้างร่างกายผิดปกติเล็กน้อย ทำให้ขณะใช้งานเข่า เอ็นข้างเข่าจะตึงและเสียดสีกระดูกหัวเข่าได้มากกว่าปกติ (มีรายละเอียดอยู่ด้านล่าง อ่านต่อเลยครับ)
  3. ท่าทาง (form) การวิ่งผิดปกติเล็กน้อย ทำให้เอ็นข้างเข่าจะตึงและเสียดสีกระดูกหัวเข่าได้มากกว่าปกติ (มีรายละเอียดอยู่ด้านล่าง อ่านต่อเลยครับ)
เอ็นข้างเข่าด้านนอกอักเสบ

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เอ็นข้างเข่าอักเสบ

  • เอ็นข้างเข่าตึงเกินไป เนื่องจากการใช้งานหนัก และขาดการยืดเหยียดอย่างถูกต้องและเพียงพอ
  • กล้ามเนื้อกางสะโพก (Gluteus medius) อ่อนแรง
  • เล่นกีฬาที่ต้องใช้เข่างอ-เหยียดตลอดเวลา เช่น วิ่งระยะไกล วิ่งมาราธอน ปั่นจักรยานทางไกล เป็นต้น
  • ทำงานที่ต้องนั่งงอเข่านานๆ
  • ต้องวิ่งขึ้นหรือลงที่ลาดชันมากๆ
  • ขาไม่เท่ากัน
  • มีภาวะเท้าแบน ทำให้หน้าแข้งหมุนเข้าด้านใน

การรักษาเอ็นข้างเข่าอักเสบ

เอ็นเข่าอักเสบประคบ

ช่วงที่มีอาการปวดใหม่ๆ หลังจากออกกำลังกาย สิ่งที่ควรทำคือการพัก ประคบเย็น อาจใช้ยาลดการอักเสบช่วยก็ได้ครับ (ปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ก่อนนะครับ) ถ้าพอไหวก็ยืดเหยียดกล้ามเนื้อช่วยก็ได้ครับ

เอ็นข้างเข่าด้านนอกอักเสบ

ถ้าปวดมากหรือเป็นเรื้อรัง เป็นซ้ำบ่อยๆอาจใช้การฉีดยาสเตียรอยด์ช่วย หรือการทำช็อคเวฟ ก็ช่วยให้หายได้ครับ

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาด้วยวิธีช็อคเวฟ
เอ็นต้นขาด้านข้างอักเสบ

นวดหรือใช้ roller foam ช่วยได้ครับ

อ่านเพื่มเติมเกี่ยวกับการใช้ roller
เอ็นข้างเข่าด้านนอกอักเสบ

ฝึกกล้ามเนื้อกางสะโพก

วิ่งแล้วเจ็บด้านข้างเข่า

กิจกรรมที่ทำให้เจ็บให้งดไปก่อน และเลือกการออกกำลังกายที่ไม่ทำให้เจ็บนะครับ

สำหรับนักวิ่งที่มีปัญหาเอ็นข้างเข่าอักเสบ

เอ็นข้างเข่าอักเสบยืดเหยียด

ช่วงที่มีอาการอักเสบ เจ็บเอ็นข้างเข่า

  • พัก ประคบเย็น ไม่ควรนวดหรือประคบอุ่น
  • ทานยาแก้อักเสบสั้นๆ (ปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ก่อนนะครับ)
  • ยืดเหยียด IT band เบาๆอย่างถูกวิธี
  • งดกิจกรรมที่ต้อง งอ-เหยียด เข่าซ้ำๆ เปลี่ยนมาเป็นการออกกำลังกายวิธีอื่นเพื่อคงความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและระบบหัวใจ ถ้าเป็นว่ายน้ำได้จะดีมาก (เลี่ยงว่ายท่ากบ)
  • ถ้าปวดมาก ปรึกษาแพทย์ฉีดสเตียรอยด์เฉพาะจุด หรือทำช็อคเวฟ
  • ใช้ roller foam นวดบ่อยๆ

เมื่อการอักเสบดีขึ้น มีอาการปวดแต่ไม่มากนัก อาการบวมลดลง

  • ฝึกการยืดเหยียด IT band อย่างถูกวิธี
  • ฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ Gluteus medius
ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกายภาพรักษาเอ็นข้างเข่าอักเสบ
วิ่งเอ็นข้างเข่าอักเสบ

เริ่มกลับไปวิ่ง…

โดยต้องเริ่มจากลดความเร็วและระยะทางก่อน อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของที่เคยฝึก วิ่งเบาๆ ระยะสั้นๆ พื้นเรียบๆ เลี่ยงการขึ้นลงทางชัน เมื่อทำได้โดยไม่เจ็บแล้วจึงค่อยๆเพิ่มความเข้มข้นของการฝึกจนกลับมาวิ่งได้เหมือนเดิมครับ

    • ฝึกการยืดเหยียด IT band ก่อนและหลังวิ่งโดยใช้เวลาและความตั้งใจมากหน่อยนะครับ
    • เสริมการฝึกกล้ามเนื้อกางสะโพกไปในโปรแกรมการฝึกอย่างสม่ำเสมอ

ท่าทางการวิ่งที่ทำให้เป็นเอ็นข้างเข่าอักเสบซ้ำๆ หรือไม่หายสักที

มีท่าทางการวิ่งที่ทำให้เอ็นข้างเข่าอักเสบได้ง่ายอยู่ทั้งหมด 3 ท่าทางด้วยกันครับได้แก่

  1. Cross over
  2. Femoral internal rotation
  3. Pelvic drop

Cross over

  • หมายถึงคนที่วิ่งแล้วลงเท้าเข้าด้านในตัวมากเกินไป โดยปกติแล้วในขณะวิ่ง ถ้าเราลองจินตนาการว่ามีเส้นกลางลำตัวอยู่ที่พื้นการลงเท้าของเราจะต้องไม่คร่อมเส้น เช่น เท้าขวาก็ต้องลงบริเวณด้านขวาของเส้น เท้าซ้ายก็ต้องลงพื้นบริเวณด้านซ้ายของเส้น
  • ท่าทางการวิ่งเมื่อวิ่งแล้วเท้าลงคร่อมเส้น (อาจจะเหยียบเส้นหรือล้ำมาอีกฝั่งของเส้น) เรียกว่า cross over
  • คำแนะนำ : ฝึกวิ่งคร่อมเส้น โดยหาสถานที่วิ่งที่มีเส้นบริเวณถนน (อย่าไปวิ่งกลางถนนนะครับ เดี๋ยวรถชน) แล้วฝึกวิ่งไม่ให้เท้าลงเหยียบเส้นหรือล้ำเส้นไปอีกฝั่งหนึ่งของเส้น

Femoral internal rotation and pelvic drop

  • สองอย่างนี้มักพบร่วมกัน โดยขณะวิ่ง ต้นขาจะบิดเข้าด้านในและสะโพกจะตก (เท้าขวาลงพื้น สะโพกด้านซ้ายจะตก, เท้าซ้ายลงพื้น สะโพกขวาจะตก) อันนี้จะสักเกตุยากครับ อาจต้องให้คนอื่นช่วยดูท่าการวิ่งให้เรา หรือใช้การถ่ายวีดีโอแล้วมาดูวิเคราะห์อีกที
  • คำแนะนำ : ฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อสะโพก โดยเฉพาะกล้ามเนื้อกางสะโพก (Gluteus medius), ฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้องอและเหยียดสะโพก
  • ถ้าสงสัยว่ามีภาวะนี้ ควรพบแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดนักกีฬา เพื่อสืบหาสาเหตุและวิธีแก้ไขอย่างถูกวิธีนะครับ

สรุป

เอ็นข้างเข่าอักเสบ (iliotibial band syndrome, IT band syndrome) เป็นภาวะที่พบในนักกีฬาที่ใช้เข่าอยู่ตลอดเช่นนักวิ่ง นักปั่นจักรยาน ทำให้มีอาการปวดเข่าด้านข้าง(นอก) ทำให้รบกวนการฝึกหรือการแข่งขันได้ การรักษาส่วนใหญ่เป็นการพัก และการยืดเหยียดอย่างถูกวิธี ถ้าเป็นเรื้อรัง หรือเป็นซ้ำบ่อยๆ มักมีสาเหตุจากโครงสร้างของร่ายกายหรือท่าทางการฝึกที่ผิดปกติไปครับ  

บทความโดย นายแพทย์ศุภโชค รัศมีมงคล