fbpx

เท้าเบาหวาน

เท้าเบาหวาน

เบาหวานลงเท้า เกิดขึ้นได้อย่างไร

            เบาหวานเป็นโรคที่ทำให้เส้นเลือดทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพโดยเฉพาะเส้นเลือดเล็กๆส่วนปลาย เช่นปลายมือ ปลายเท้า การที่เบาหวานลงเท้า เกิดได้จาก 2 สาเหตุหลักๆคือ

1

เบาหวานลงเท้า ส่งผลให้เส้นประสาทเท้าทำงานได้ลดลง ซึ่งจะส่งผลต่อการรับความรู้สึก และการควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อเล็กๆในเท้า

เบาหวานชาเท้า

ชาเท้า ทำให้การรับความรู้สึก ร้อน, เย็น, เจ็บ ได้ลดลง หรือไม่รู้สึกไปเลย เช่น เมื่อเกิดบาดแผลขึ้น จะไม่รู้สึกเจ็บ เมื่อตรวจดูจึงพบว่าเป็นแผลเรื้อรัง ทำให้แผลหายยาก หรือติดเชื้อไปแล้ว

อ่านเพิ่มเรื่องชาเท้าได้ที่นี่ครับ
เบาหวานเท้าผิดรูป

กล้ามเนื้อเล็กๆในเท้าทำงานไม่สัมพันธ์กัน ทำให้เท้าผิดรูป ซึ่งจะทำให้การลงน้ำหนักที่เท้าไม่กระจายเหมือนปกติ มีการลงน้ำหนักที่จุดใดจุดหนึ่งในเท้ามากกว่าปกติ ทำให้เกิดแผล หนังแข็งๆ และเจ็บได้

อ่านเพิ่มเรื่องเท้าผิดรูปได้ที่นี่ครับ

2

เบาหวานลงเท้า ทำให้เส้นเลือดที่มาเลี้ยงเท้าทำงานได้ลดลง

แผลเท้าเบาหวาน
  • เลือดไปเลี้ยงเนื้อเยื่อส่วนปลายได้ลดลง เช่นปลายเท้า นิ้วเท้า
  • เมื่อเป็นแผล แผลจะหายช้า และเกิดแผลติดเชื้อได้ง่าย
  • ปลายมือปลายเท้าคล้ำ ดำ เนื่องจากขาดเลือดไปเลี้ยง

เท้าเบาหวาน ส่งผลให้เกิดปัญหาที่เท้าอะไรได้บ้าง

เท้าเบาหวานเป็นแผล

แผลเบาหวาน

เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมากๆนะครับ

มักเกิดจากมีอาการเท้าชา ทำให้เป็นแผลโดยไม่รู้ตัว อาจเริ่มจากแผลบาดเจ็บเล็กๆ หรือแผลที่เกิดจากการเสียดสีเล็กน้อยตื้นๆ

แล้วไม่ได้ดูแลแผลอย่างถูกวิธี ทำให้แผลหายช้า ลุกลาม และมีการติดเชื้อขึ้นได้

เบาหวานนิ้วผิดรูป

นิ้วเท้าผิดรูป

เกิดจากกล้ามเนื้อเล็กๆในเท้าทำงานไม่สัมพันธ์กัน ทำให้นิ้วเท้าผิดรูป ส่งผลให้เดินแล้วนิ้วเท้าจิกพื้น เจ็บ หรือมีแผลได้ หรือทำให้ใส่รองเท้าแล้วเกิดการเสียดสีได้ง่าย

เบาหวานเล็บขบ

เล็บขบ

ถ้าเป็นในเท้าปกติก็ไม่น่ากลัวครับ แต่ถ้าเป็นเบาหวานด้วย เล็บขบอาจเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาแผลเรื้อรังได้ ดังนั้น ระวังไม่ให้เป็นดีที่สุดครับ

  • เลือกรองเท้าที่พอดี โดยเฉพาะส่วนหน้าเท้า
  • ตัวเล็บเท้าให้ถูกวิธี
  • ถ้ามองไม่ชัด ควรให้คนอื่นตัดเล็บเท้าให้
  • ถ้ามีเท้าผิดรูปอาจทำให้มีการเดิน หรือวิ่งผิดท่าจนเล็บโดนกระแทกตลอดเวลา ต้องปรึกษาแพทย์แล้วครับ
อ่านเรื่องเล็บขบเพิ่ม
เชื้อราที่เท้าเบาหวาน

ติดเชื้อราได้ง่าย

โดยเฉพาะบริเวณซอกเล็บ ง่ามนิ้วเท้า จะมีอาการคัน ผิวหนังบวมแดง ผิวหนังแตก

เชื้อราที่เล็บเท้า

ติดเชื้อราที่เล็บเท้า

จะพบว่าเล็บเท้าจะแข็งๆ หนาๆ สีเล็บเท้าจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาล คล้ำๆ เล็บจะผิดรูปไป บางทีเล็บจะยกตัวแยกจากพื้นเล็บก็ได้ มักเกิดจากใส่รองเท้าชื้นๆเป็นเวลานาน

เท้าเบาหวานตาปลา

เกิดหนังแข็งๆที่ฝ่าเท้า (Corn, Callus)

เกิดจากการลงน้ำหนักที่มากผิดปกติในบริเวณต่างๆที่เท้า อาจเกิดจากเท้าผิดรูป เอ็นร้อยหวายตึง ก็ได้ บางครั้งเกิดจากการเลือกรองเท้าที่ไม่พอดี ทั้งขนาดและทรงของรองเท้า

  • แนะนำให้ใช้หินขัดเท้า มาขัดบริเวณที่มีหนังแข็งๆครับ ทำหลังอาบน้ำ
  • ห้ามใช้ของมีคมตัดหนังแข็งๆออกเองนะครับ เดี๋ยวพลาดเป็นแผล

  • ถ้าเป็นจากรองเท้า ต้องเลือกที่พอดีทั้งขนาดและทรงรองเท้า อาจใช้อุปกรณ์ป้องกันรองเท้ากัด หรือใช้แผ่นรองรองเท้าเฉพาะบุคคลก็ได้ครับ
อ่านเพิ่มเรื่องตาปลาที่เท้าได้ที่นี่ครับ
เบาหวานส้นเท้าแตก

ผิวแห้ง ผิวแตก

บางคนเป็นมากจนผิวแตกลึกมีเลือดออกได้เลยครับ แนะนำทาครีม และใส่ถุงเท้าถ้านอนห้องแอร์นะครับ

ถุงน้ำเท้าเบาหวาน

ถุงน้ำ

เกิดจากการเสียดสี มักเกิดจากการใส่รองเท้าที่ไม่พอดี ไม่ใส่ถุงเท้า

  • เมื่อเกิดถุงน้ำ ให้ระมัดระวังการติดเชื้อ และไม่ควรเจาะและเอาผิวหนังบริเวณถุงน้ำออกนะครับ จะติดเชื้อได้ง่าย
นิ้วโป้งเท้าเก

กระดูกงอกที่โคนนิ้วหัวแม่เท้า

ภาวะนี้สามารถเกิดขึ้นได้ไม่เกี่ยวกับเบาหวานครับ แต่คนที่มีภาวะนี้ และเป็นเบาหวาน ส่วนที่มีกระดูกงอกที่โคนนิ้วหัวแม่เท้าจะเกิดการกด เบียด รัด กับรองเท้าทำให้เกิดการอักเสบ บวมแดง เจ็บได้ง่าย

อ่านเรื่องนิ้วหัวแม่เท้าเก
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาของเท้าเบาหวานเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

เบาหวานลงเท้า เท้าเบาหวาน มีอาการอย่างไร

  • สีผิวเปลี่ยน อาจซีดลง บวมแดง หรือคล้ำขึ้นก็ได้
  • ปลายเท้าคล้ำ หรือดำ
  • เท้าผิดรูป นิ้วเท้าผิดรูป
  • เท้าอุ่นหรือเย็นกว่าปกติ
  • เท้าบวม
เบาหวานเท้าดำ

เบาหวานเท้าดำ นิ้วเท้าดำ

เบาหวานเท้าบวม

เบาหวานเท้าผิดรูป

เบาหวานเท้าผิดรูป

  • ปวด/เจ็บที่เท้า มักเป็นตอนกลางคืน บางคนต้องตื่นมากลางดึกเนื่องจากปวดเท้า
  • แผลที่เท้าหายยาก หายช้า
  • เล็บขบบ่อย เล็บมีเชื้อรา
  • มีหนังแข็งๆที่ฝ่าเท้า หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของเท้า
  • ผิวหนังแห้ง แตก โดยเฉพาะส้นเท้า
  • เท้ามีกลิ่นผิดปกติ
แผลเท้าเบาหวาน

แผลเท้าเบาหวาน

เบาหวานเชื้อราที่เท้า

เบาหวานเชื้อราที่เท้า

เบาหวานหนังแข็งที่ฝ่าเท้า

เบาหวานหนังแข็งที่ฝ่าเท้า

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาการของเบาหวานลงเท้าได้ที่นี่ครับ

การดูแลเท้าเบาหวาน

คุมระดับน้ำตาลให้ปกติ อันนี้สำคัญที่สุดครับ ต้องปรึกษากับคุณหมอประจำตัวนะครับว่าต้องทำอย่างไร ต้องปรับยาทาน ยาฉีด คุมอาหารอย่างไร

เท้าเบาหวานออกกำลังกาย

ออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้หัวใจสูบฉีดเลือดมาเลี้ยงส่วนปลายมือปลายเท้าอยู่เสมอ

  • ล้างเท้าแช่เท้าด้วยน้ำอุ่นและสบู่อ่อนทุกวัน
  • ใช้มือทดสอบอุณหภูมิน้ำ ห้ามรองน้ำแล้วแช่เท้าเลย เพราะเท้าที่รับความรู้สึกได้ลดลงจะไม่รู้สึกว่าน้ำร้อนเกินไปหรือไม่
  • เช็ดเท้าให้แห้งเสมอ โดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้วเท้า
ครีมทาเท้าเบาหวาน
  • ตรวจดูเท้าทุกวัน ว่ามีความผิดปกติหรือไม่ เช่น แผล ผิวหนังบวมแดง รอยช้ำ ถุงน้ำ หรือหนังแข็ง ถ้าสายตาไม่ดี ต้องให้คนอื่นช่วยดูให้
  • ถ้าผิวแห้ง ให้ทาครีมเพิ่มความชุ่มชื้นหลังล้างเท้า แต่หลีกเลี่ยงการทาครีมบริเวณซอกนิ้วเท้า
หินขัดเท้าเบาหวาน
  • ถ้ามีหนังแข็งๆเกิดขึ้น ให้ใช้หินขัดเท้าหลังอาบน้ำ ไม่ควรใช้ของมีคมตัด
ตัดเล็บเท้าเบาหวาน
  • ตัดเล็บเท้าให้ถูกวิธี
อ่านเรื่องการตัดเล็บนิ้วเท้า
รองเท้าเบาหวาน
  • ใช้รองเท้าปิดหัว ป้องกันอันตรายจากการเดินเตะ หรือสิ่งของหล่นใส่เท้า
  • ไม่ควรเดินเท้าเปล่าแม้แต่ในบ้าน
  • เลือกรองเท้าให้เหมาะสม ควรเป็นรองเท้าที่พอดีทั้งขนาดและทรงรองเท้า
  • ถ้าเป็นไปได้ควรใช้รองเท้าสำหรับคนที่เป็นเบาหวานโดยเฉพาะ หรือรองเท้าตัดเฉพาะบุคคล
  • การใส่รองเท้าควรแน่ใจว่าไม่มีสิ่งแปลกปลอมในรองเท้า (ใช้มือล้วงไปเช็ค) จะได้ไม่ไปเหยียบโดยไม่ตั้งใจ
เท้าเบาหวานใส่ถุงเท้า
  • ใส่ถุงเท้าตอนนอน กรณีนอนห้องแอร์ เท้าจะได้ไม่เย็น แห้งเกินไป
  • ระวังเรื่องการสัมผัสสิ่งร้อนหรือเย็นเกินไป เช่น เดินบนพื้นร้อนๆ หรือนอนตากแอร์เย็นๆ
เท้าเบาหวานนั่งไขว่ห้าง
  • พยายามให้เลือดไปเลี้ยงเท้าให้มากที่สุด
    • ไม่ห้อยเท้านานๆ เลือดจะไหลเวียนยาก
    • บริหาร ขยับข้อเท้า และนิ้วเท้าบ่อยๆ เป็นประจำ ครั้งละหลายๆรอบ
    • ออกกำลังกายเบาๆเป็นประจำ
    • หลีกเลี่ยงการนั่งไขว่ห้างนานๆ
เท้าเบาหวานเลิกบุหรี่
  • ถ้าสูบบุหรี่ ควรเลิกตั้งแต่ตอนนี้เลย
  • ตรวจเท้าโดยผู้ชำนาญเป็นประจำ ปีละอย่างน้อย 1 ครั้ง
  • พบแพทย์เพื่อประเมิน และรับคำแนะนำเมื่อมีความผิดปกติ หรือไม่แน่ใจ

วิธีตรวจเท้าเบาหวานด้วยตัวเอง

            ปัญหาเท้าเบาหวานใหญ่ๆ เรื้อรัง รักษายาก และยาวนาน สามารถป้องกันได้ด้วยการตรวจเท้าด้วยตัวเองเป็นประจำ เนื่องจากจะสามารถเจอปัญหาได้ตั้งแต่เริ่มเป็น และรักษาได้ง่ายกว่า

              อย่างไรก็ตาม ควรให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจเท้าเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้งครับ

  • ดูการบาดเจ็บ

มีแผล, รอยบวมช้ำ, ถุงน้ำ, รอยไหม้/ลวก

  • ดูสัญญาณเท้าเบาหวานอื่นๆ

สี (ขาวซีด, แดงอักเสบ, ช้ำ, คล้ำ, ดำ), รูปทรงเท้า, กลิ่น, เชื้อรา, หนังแข็งที่เท้า, ผิวแห้ง, เท้าอุ่น, เท้าอุ่นเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่ง, เท้าเย็น

เชื้อราที่เล็บเท้า
เท้าเบาหวานเป็นแผล
เบาหวานเชื้อราที่เท้า
เบาหวานเล็บขบ

ตรวจเท้าทีละด้านให้ครบ

  • ตรวจดูฝ่าเท้า : หนังแข็ง, แผล, หูดหรือตาปลา
  • ตรวจดูหลังเท้า : มีหนังแข็ง, นิ้วเท้าผิดรูป, ขนร่วง, ผิวเป็นมัน
  • ตรวจดูส้นเท้า : มีหนังแข็ง, แผล, ผิวหนังแห้ง, ผิวแห้งจนแตกเป็นแผล
  • ตรวจดูเล็บเท้า : มีเชื้อรา, เล็บเปลี่ยนสี, เล็บแตกหัก, เล็บหนา, เล็บหลุดจากพื้นเล็บ
แผลเท้าเบาหวาน
นิ้วโป้งเท้าเก
เบาหวานส้นเท้าแตก
เบาหวานเล็บขบ

ตรวจการรับความรู้สึก

  • ตรวจโดยการใช้นิ้วมือ แตะบริเวณฝ่าเท้าดูว่ารู้สึกปกติหรือไม่ ถ้ามีอาการชา หรือความรู้สึกลดลง ให้รีบพบแพทย์
  • ควรตรวจหลายๆตำแหน่งของเท้า
  • ลองตรวจโดยใช้นิ้วแตะที่ปลายนิ้วหัวแม่เท้า นิ้วเท้าที่3 นิ้วเท้าที่5 ดูครับ

  • ไม่ควรใช้ของมีคม ของแหลมๆ ของร้อน ทดสอบนะครับ เดี๋ยวจะเป็นแผล
ตรวจเท้าเบาหวาน
ตรวจเท้าเบาหวานด้วยตัวเอง
วิธีตรวจเท้าเบาหวาน

Reference : https://care.diabetesjournals.org/content/34/7/1517

วิธีเลือกรองเท้าเบาหวาน

ลักษณะรองเท้าเบาหวาน

  • ควรเป็นรองเท้าปิดหัว, หุ้มส้น,
  • ไม่มีตะเข็บด้านใน จะได้ไม่เกิดการเสียดสี
  • ทำจากหนัง หรือผ้า เพื่อให้ระบายอากาศได้ดี

ทรงรองเท้าเบาหวาน

  • เลือกทรงตามทรงของเท้าของเรา
  • เลือกหน้ากว้างๆ
ลักษณะรองเท้าเบาหวาน
เบาหวานรองเท้า
เบาหวานรองเท้าแตะ

ขนาดรองเท้าเบาหวาน

  • รองเท้าเบอร์เดียวกัน แต่คนละยี่ห้อ ขนาดก็ต่างกัน
  • รองเท้ายี่ห้อเดียวกัน ทรงต่างกัน ขนาดก็ต่างกัน
  • ต้องลองใส่ ก่อนซื้อเท่านั้น
  • ตอนลองรองเท้า ต้องใส่ทั้งสองข้าง เพราะเท้าของเราเองอาจขนาดไม่เท่ากันก็ได้
  • ตอนลองรองเท้า ต้องใส่หลายๆอิริยาบถ ยืน นั่ง เดิน ลองใส่ระยะเวลาหนึ่งจะได้แน่ใจว่าพอดีจริงๆ
  • ต้องพอดีทั้งความยาวและความกว้างของรองเท้า
  • ส้นเท้าพอดี ใส่แล้วไม่เสียดสี ไม่มีรองเท้ากัดเป็นแผล ถ้าหลวมเกินไปรองเท้าจะหลุดง่าย
  • ถ้าต้องเสริมรองเท้าด้วยอุปกรณ์ต่างๆ ควรนำติดตัวไปลองรองเท้าด้วย เช่นแผ่นรองรองเท้า อุปกรณ์กันรองเท้ากัด เนื่องจากอุปกรณ์พวกนี้จะทำให้รองเท้าคับขึ้นได้
  • เท้าเปลี่ยนขนาดได้ตามกิจกรรมที่ทำ เช่น เดิน, วิ่ง, นั่งห้อยเท้านานๆ ควรเลือกให้เหมาะกับกิจกรรมที่ต้องการ

แผ่นพับการดูแลเท้าเบาหวานและการเลือกรองเท้าสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน (file PDF)

ขอขอบคุณ ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล

แผ่นพับการดูแลเท้าเบาหวาน

แผลเบาหวาน

            สามารถเกิดขึ้นได้จากบาดแผลขนาดเล็ก เช่นเดินเหยียบหิน แผลตัดเล็บพลาด และเนื่องจากเบาหวานทำให้เลือดมาเลี้ยงบริเวณแผลได้น้อย ร่วมกับอาการชาเท้าจากเบาหวานทำให้ไม่รู้สึกเจ็บมาก ทำให้แผลหายช้า ลุกลามได้

การรักษาแผลเบาหวาน

ต้องพิจารณาหลายๆอย่างประกอบกัน ได้แก่

แผลเบาหวานรักษาอย่างไร
  • ชนิดของบาดแผล ตำแหน่งของแผล ความลึกของแผล
  • มีการติดเชื้อหรือไม่
  • มีสัญญาณว่าการติดเชื้อเข้าสู่กระแสเลือดหรือไม่

หลักในการรักษาแผลเบาหวาน

  • ต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ได้ ถ้าควบคุมไม่ได้อาจต้องใช้ยาฉีดเบาหวานช่วย
  • คุมอาหาร และเพิ่มภาวะโภชนาการให้ดี
  • ทำแผลเป็นประจำ
  • ลดแรงกดที่แผลหรือรอบๆแผล
  • เพิ่มเลือดมาเลี้ยงแผล
    • Hyperbaric oxygen therapy
    • Negative pressure wound therapy
  • รักษาอาการติดเชื้อ อาจต้องใช้ยาฆ่าเชื้อชนิดทานหรือฉีดเข้าหลอดเลือด การล้างแผล การผ่าตัดนำเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อออก
  • การผ่าตัดโดยมีจุดประสงค์เพื่อ ลดการกดบริเวณแผล, ผ่าตัดล้างแผลนำเนื้อตายและเนื้อติดเชื้อออก

อาการของแผลเบาหวานที่มีการติดเชื้อ (ควรพบแพทย์ทันที)

  • ไข้
  • หนาวสั่น
  • ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงมาก
  • ยาคุมระดับน้ำตาลที่ใช้ตามปกติ ไม่สามรถคุมระดับน้ำตาลได้
  • แผลบวมแดง มีหนอง 
  • ส่วนใดส่วนหนึ่งของเท้าดำ คล้ำ เท้าเย็น
  • ความดันต่ำ ความรู้สึกตัวลดลง

การลดแรงกดที่แผลหรือรอบๆแผล

  • ใส่เฝือกและเดินไม่ลงน้ำหนัก
  • ใช้อุปกรณ์ช่วยลดการกดบริเวณแผล
  • แผ่นรองรองเท้าช่วยกระจายน้ำหนักและลดการกดที่แผล
เบาหวานลงเท้าเฝือก

เฝือก Total contact cast ลดการกดบริเวณแผลเบาหวาน

รองเท้าเบาหวานลงเท้า

รองเท้าช่วยลดการกดบริเวณแผล

แผ่นรองรองเท้าเบาหวาน

แผ่นรองรองเท้าลดการกดบริเวณแผลและช่วยกระจายน้ำหนัก

ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลรักษาแผลเบาหวานได้ที่นี่ครับ

เบาหวานเท้าดำ (gangrene)

 เมื่อเกิดเท้าดำ หรือบางส่วนของเท้าดำ คล้ำลง เกิดจากเลือดมาเลี้ยงอวัยวะส่วนนั้นได้ไม่เพียงพอต่อการอยู่รอดของเนื้อเยื่อ การเป็นเบาหวานก็ทำให้เส้นเลือดส่วนปลายทำงานได้ไม่ดีก็เกิดภาวะปลายเท้าดำได้เช่นกัน

เบาหวานนิ้วเท้าดำ

อาการของเบาหวานเท้าดำ

  • เท้าส่วนปลาย หรือนิ้วเท้า คล้ำลง ดำ หรือบางครั้งจะเป็นสีแดงๆ
  • ปวดบริเวณส่วนที่เปลี่ยนสี
  • ชา

การรักษาเบาหวานเท้าดำ

ถ้าเป็นมากอาจต้องตัดอวัยวะส่วนนั้นออกไป

ถ้าเริ่มเป็น การรักษาประกอบไปด้วย

  • การผ่าตัดนำเนื้อตายออก
  • การผ่าตัดเพิ่มเลือดไปเลี้ยงอวัยวะส่วนปลาย
  • การใช้ Hyperbaric oxygen therapy เพิ่มปริมาณออกซิเจนบริเวณปลายเท้า
  • การให้ยาปฏิชีวนะถ้ามีการติดเชื้อร่วมด้วย
อ่านเพิ่มเติมเรื่องการรักษาเบาหวานเท้าดำได้ที่นี่ครับ

สรุป

เบาหวานลงเท้า สามารถเกิดขึ้นได้ในคนไข้เบาหวาน โดยมีสาเหตุมาจากเลือดไปเลี้ยงปลายเท้าได้ไม่ดี ทำให้เส้นประสาทและกล้ามเนื้อทำงานได้ไม่ดีตามไปด้วย ส่งผลให้เกิดการชา, เท้าผิดรูป และเป็นปัญหาอื่นๆตามมาได้อีกมาก การป้องกันโดยการคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ได้ค่าที่ปกติ และการดูแลเท้าเป็นประจำอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานมีสุขภาพเท้าที่แข็งแรงไปได้นานๆครับ

บทความโดย นายแพทย์ศุภโชค รัศมีมงคล